บทที่ 6
ห่างออกไปเพียงสิบสองฟุต มีคนถูกฆ่าตายอีกคน
ชายคนนั้นสิ้นใจขณะที่อัลเบอร์ต้าเดินผ่านพอดี เส้นคมกริบที่แทบมองไม่เห็นได้เฉือนร่างเขาราวกับปีกของนกฮัมมิงเบิร์ด รวดเร็วจนไม่มีใครมองเห็นได้ทัน
อัลเบอร์ต้ารีบเบี่ยงตัวหลบ โอบกอดโรเดอริกไว้ในอ้อมแขนโดยไม่สนใจตัวเอง เลือดของผู้เล่นที่ตายแล้วสาดกระเซ็นเต็มใบหน้าของเธอ
แต่อัลเบอร์ต้าไม่ใส่ใจ ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังคนผู้หนึ่งและเอ่ยเรียกเบาๆ แทบจะเก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่มิด "ลอว์เรนซ์!"
ชายในชุดคลุมสีดำเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นคางที่ไม่ได้โกนหนวดเครา เหนือขึ้นไปคือหน้ากากสีดำที่ปิดบังใบหน้าของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง
ชายคนนั้นจำอัลเบอร์ต้าไม่ได้ เขาเห็นเพียงผู้หญิงคนนี้ที่พุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าบิ่น ดวงตาเป็นประกายราวกับสุนัขจิ้งจอกที่จับกระต่ายได้ ทุกคนกำลังวิ่งหนี ทั้งที่เธอยังอุ้มเด็กอยู่ด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าเข้ามาหาเขาโดยไม่ลังเล
ยัยนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวหรือไง
วินาทีต่อมา เขาก็ได้คำตอบ ผู้หญิงคนนั้นเช็ดเลือดออกจากใบหน้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วส่งยิ้มสดใสสวยงามให้เขา "ลอว์เรนซ์ ฉันเจอคุณแล้ว"
"ลอว์เรนซ์?" ชายคนนั้นทวนคำด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "ข้าหรือ"
ผ่านหน้ากากนั้น อัลเบอร์ต้าเห็นแววตาที่สงบนิ่ง เฉยเมย และสับสนของลอว์เรนซ์
เธอนิ่วหน้า กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่เปรตตนหนึ่งก็รีบเข้ามาคำรามใส่ลอว์เรนซ์ "ได้ครบสิบแล้ว! ไปกันเถอะ!"
ลอว์เรนซ์เดินตามเปรตตนนั้นไป แต่อัลเบอร์ต้ารีบคว้ามือเขาไว้ บีบเบาๆ แล้วปล่อยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร แล้วหันหลังเดินจากไป
เมื่อกลับมาถึงห้องครัว เขาคลี่มือออกก็พบผีเสื้อโลหะสีน้ำเงินตัวเล็กๆ
ลอว์เรนซ์ขมวดคิ้วมุ่น ลังเลอยู่ระหว่างจะโยนมันทิ้งหรือเก็บไว้ สุดท้ายเขาก็เก็บมันใส่กระเป๋า
บางทีเขาอาจจะสัมผัสได้ว่าเคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะความจำเสื่อม เขาจึงไม่ได้รู้สึกรำคาญเธอ
เขาคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมถึงรู้สึกว่าตอนที่ผู้หญิงบ้าคนนั้นส่งผีเสื้อให้ เธอกลับสัมผัสหลังมือของเขากันนะ
อัลเบอร์ต้าที่แอบหยอกลอว์เรนซ์ได้สำเร็จกำลังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
แต่ลอว์เรนซ์แกล้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ หรือว่าเขาลืมไปแล้วจริงๆ
"แอนนา!" เซนรั้งอัลเบอร์ต้าไว้ขณะที่เธอกำลังจะเดินขึ้นบันได
ประกายเย็นเยียบวูบผ่านดวงตาของอัลเบอร์ต้า "ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่แอนนา ฉันชื่ออัลเบอร์ต้า"
เซนตกใจกับสายตาของเธอ เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยสัญชาตญาณ พลางสงสัยว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีแววตาที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร
"เมื่อกี้เธอใจกล้าเกินไปแล้ว เปรตตนนั้นเกือบจะฆ่าเธอ!" เซนเฝ้ามองอัลเบอร์ต้าอยู่และเห็นเธอวิ่งเข้าไปหาลอว์เรนซ์
"เขาไม่ทำหรอก" อัลเบอร์ต้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ "มีธุระอะไรงั้นเหรอ"
เซนกำลังจะอ้าปากพูด แต่เสียงประกาศจากเรือสำราญก็ดังแทรกขึ้นมาทันที
"ทำไมพวกแกไม่เตรียมอาหารตามกฎ" เสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่เย็นเยียบตวาดถามอย่างเกรี้ยวกราด
อัลเบอร์ต้ากับเซนต่างเงยหน้าขึ้นมอง แล้วสบตากัน อัลเบอร์ต้าจึงยักไหล่ "ทีนี้ก็รู้แล้วสินะ ว่าคนที่ตั้งกฎเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์"
"พวกแกรู้จักความหิวโหยไหม เข้าใจความสิ้นหวังของการอดตายหรือเปล่า พวกแกไม่เข้าใจอะไรเลย!"
ผู้เล่นคนหนึ่งที่แขนบาดเจ็บนั่งอยู่บนพื้น ตะโกนขึ้นว่า "อาหารบ้าบออะไร! แกกำลังบังคับให้พวกเราฆ่าคน!"
มีเสียงข้าวของถูกทุบทำลายดังมาจากเสียงตามสาย จากนั้นน้ำเสียงก็สงบลงเล็กน้อย "ในเมื่อพวกแกไม่ชอบทำตามกฎ งั้นเหล่าเปรตก็ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎเหมือนกัน ก่อนเจ็ดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ พวกแกต้องสังเวยมนุษย์สิบคนเป็นอาหาร! เหล่าเปรตได้คลานออกมาจากขุมนรกแล้ว และพวกมันจะออกอาละวาดไปทั่วทุกแห่ง"
“ที่ว่าเหล่าภูตผีผู้หิวโหยจะออกอาละวาดไปทั่ว...มันหมายความว่ายังไง” เซนถาม น้ำเสียงของเขาสั่นเครือขณะมองหน้าอัลเบอร์ต้า
“ก็หมายความตามที่นายคิดนั่นแหละ พวกมันกำลังจะออกอาละวาดไล่ฆ่าคน! ฆ่าใครก็ได้ตามใจชอบ! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เรือสำราญลำนี้จะไม่ปลอดภัยเหมือนวันนี้อีกแล้ว” อัลเบอร์ต้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“แล้ววันนี้มันปลอดภัยขนาดนั้นเลยเหรอ” เซนเกาหัวอย่างกระวนกระวาย “เกมนี่ต้องการจะบีบให้เราฆ่ากันเองเหรอ เราต้องร่วมมือกันสิ…”
“ไม่ ลาก่อน” อัลเบอร์ต้าหันหลังแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อกลับมาถึงห้องพัก อัลเบอร์ต้าคุกเข่าลงตรงหน้าโรเดอริก ถอดที่อุดหูที่เธอใส่ให้เขาก่อนหน้านี้ออก แล้วถามว่า “กลัวไหม”
แม้จะมีที่อุดหู โรเดอริกก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องอยู่ดี ใบหน้าของเขาซีดเผือด เด็กชายใช้มือขยี้ตา “ครับ”
“มีข่าวดี เราเจอคุณลุงของเธอแล้ว” อัลเบอร์ต้าอุ้มโรเดอริกไปวางบนเตียง “นอนซะนะ บางทีตื่นมาอาจจะได้เจอเขาก็ได้”
“จริงเหรอครับ” โรเดอริกกอดอัลเบอร์ต้าไว้แน่น
กลิ่นตัวของอัลเบอร์ต้าไม่หอมเหมือนแม่ แต่อ้อมกอดอันอบอุ่นของเธอกลับเหมือนของแม่ไม่มีผิด แต่แม่ของเขานั้นยุ่งอยู่เสมอ…
โรเดอริกผล็อยหลับไปขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ อัลเบอร์ต้าเปิดแอปหนึ่งในโทรศัพท์ จ้องมองไอคอนรูปผีเสื้อสีน้ำเงินที่เธอมอบให้ลอว์เรนซ์ ดวงตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความโหยหา
ไอคอนที่กำลังเคลื่อนไหวปรากฏขึ้นบนหน้าจอ และหัวใจของเธอก็พลอยเต้นระรัวไปกับมัน จนกระทั่งผีเสื้อสีน้ำเงินตัวนั้นเคลื่อนออกจากระยะติดตามและหายไปจากหน้าจอ
กลางดึก อัลเบอร์ต้าพลันลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบา มีใครบางคนอยู่ที่ประตู
อัลเบอร์ต้าเหลือบมองโรเดอริกที่กำลังหลับอยู่ เธอจึงดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้เขา คว้ามีดทหารจากใต้หมอน แล้วเดินเท้าเปล่าไปยังประตู
เมื่อมองผ่านตาแมว เธอเห็นใครบางคนกำลังรีบเดินจากไป พอแนบหูเข้ากับประตู ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ ห่างออกไปจนเงียบสนิท
เมื่อไม่ได้ยินเสียงใดๆ อีกแล้ว อัลเบอร์ต้าจึงเปิดประตูออก
โถงทางเดินเงียบสงัด ดูเหมือนว่าทั้งชั้นจะมีเพียงเธอคนเดียวที่ยังตื่นอยู่ เวลาตอนนั้นคือตีสามสี่สิบสองนาที
อัลเบอร์ต้าหันกลับมาและเห็นการ์ดใบหนึ่งถูกตอกติดไว้ที่ประตูห้องของเธอ บนการ์ดมีคำว่า “อาหาร” เขียนด้วยเลือด รอยขีดสุดท้ายยังคงสดใหม่ มีหยดเลือดไหลเป็นทางลงมา กลิ่นคาวคลุ้งปะทะเข้าจมูกอย่างจัง
อัลเบอร์ต้ากระชากการ์ดใบนั้นออกอย่างหัวเสียแล้วดึงตะปูออก
“ฝีมือของเจ้าอ้วนคนหนึ่ง” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
อัลเบอร์ต้าหันไปมอง ก็เห็นประตูห้องพักฝั่งตรงข้ามแง้มอยู่เป็นช่องแคบๆ
ผู้หญิงที่อยู่ข้างในมีใบหน้าซีดขาวและขอบตาลึกคล้ำ
“ก่อนเจ็ดโมงเช้า เราต้องส่งคนสิบคนไปเป็นอาหาร พวกเขาตัดสินใจเลือกผู้เล่นชั้นละหนึ่งคน และมีชั้นหนึ่งที่ต้องให้สองคน เพื่อให้ครบสิบ” หญิงสาวกระซิบ
อัลเบอร์ต้าขยับเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น “พวกเขา? ใคร”
“ผู้เล่นคนอื่นๆ มีการประชุมกันที่โถงชั้นหนึ่งกับชั้นสองตอนห้าทุ่ม คนเกินครึ่งลงมติเลือกวิธีนี้” หญิงสาวกล่าว “ก่อนหน้าเธอ คนที่ถูกเลือกคือเจ้าอ้วนคนนั้น เขาสลับตัวเองกับเธอ”
อัลเบอร์ต้าแค่นเสียง “ขอบใจ”
หญิงสาวตอบกลับด้วยการปิดประตูใส่หน้าอย่างแรง
อัลเบอร์ต้ารู้ดีว่าหญิงสาวคนนั้นคงกำลังมองเธอผ่านตาแมวอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ย้ายการ์ดใบนั้นไปติดที่ประตูของหล่อน
ตลอดทั้งโถงทางเดินที่มีประตูหลายร้อยบานนี้ เบื้องหลังประตูแต่ละบานอาจมีผู้เล่นที่ข่มตาไม่หลับเช่นเดียวกับผู้หญิงห้องตรงข้าม
“เกมบ้าๆ” อัลเบอร์ต้าคิดหาวิธีจัดการกับการ์ดใบนั้น ขณะที่มือก็กดเช็กตำแหน่งของลอว์เรนซ์ในโทรศัพท์ตามความเคยชิน
ไอคอนที่เคยหายไปกลับเข้ามาอยู่ในระยะติดตามอีกครั้ง
มันปรากฏขึ้นและเคลื่อนไหว ตรงมายังตำแหน่งของเธออย่างรวดเร็ว






















































































































































































































